ท็อปเทนสตาร์บอลโลก10 ดาวเตะที่ต้องจับตา
ฟุตบอลโลกคือทัวร์นาเมนต์ ซึ่งอุดมไปด้วยพ่อค้าแข้งชั้นเซียนจากนานาชาติ และมีหลายคนที่ก้าวขึ้นมาแจ้งเกิดจากการแข่งขันรายการนี้ ในเวิลด์ คัพ 2010 ที่แอฟริกาใต้ ก็ไม่แตกต่าง โดยวันนี้เรามี 10 ยอดนักเตะ ซึ่งน่าจับตามองอย่างมากในฟุตบอลโลกที่กาฬทวีปมาแนะนำให้รู้จักกัน...
1. ลิโอเนล เมสซี (Lionel Messi/Argentina)
ลิโอเนล เมสซี ดาวยิงร่างจิ๋วบาร์เซโลนา คือนักเตะที่น่าจับตามองมากที่สุดในฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ในระดับสโมสร เมสซี ประสบควทุกอย่าง เมื่อเขาคว้าแชมป์ ลา ลีกา กับ บาร์ซา มาแล้ว 4 สมัย (2005 ,2006, 2009,2010) โกปา เดล เรย์ 1 สมัย (2009) และแชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 2 สมัย (2006, 2009)เช่นเดียวกับเกียรติยศส่วนตัว ซึ่งซิวมาแล้วทั้งรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม บัลลง ดอร์ ของฟรองซ์ ฟุตบอล และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสหพันธฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) อย่างไรก็ตาม แม้ เมสซี จะได้รับการยอมรับว่า เป็นสุดยอดนักเตะในยุคปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่สุดของที่สุด เนื่องจากเขายังไม่เคยประสบความสำเร็จในเวทีระดับชาติมาก่อนเลย เมสซี เคยผ่านสังเวียนฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มาแล้ว1 ครั้งในปี ค.ศ. 2006 ที่เยอรมนี แต่ก็พาอาร์เจนตินา ไปได้ไกลที่สุดเพียงรอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งโดน "อินทรีเหล็ก" สอยร่วงไม่เป็นท่า 4-2 อย่างไรก็ตาม สำหรับ เวิลด์ คัพฉบับแอฟริกัน เมสซี มาแบบสมบูรณ์พร้อมทั้งสภาพร่างกาย จิตใจ และฝีเท้าที่พัฒนาขึ้นมาจนเรียกได้ว่า กลายเป็นนักเตะที่มาจากนอกโลกไปแล้ว ด้วยเหตุนี้สายตาของคอลูกหนังทั่วโลกจึงกำลังจับจ้องมาที่ อัจฉริยะร่างจิ๋วรายนี้ว่า เขาจะสามารถระเบิดฟอร์มสุดยอดกับอาร์เจนตินา ได้เหมือนตอนโลดแล่นอยู่กับต้นสังกัด อย่าง บาร์เซโลนา หรือไม่ โดยถ้า เมสซีสามารถร่ายมนต์ลูกหนังได้เหมือนกับยามอยู่ต่อหน้าแฟนบอลอาซูลกรานาในสังเวียน คัมป์ นูแล้ว ถ้วยแชมป์โลกใบที่ 3 ที่ชาวอาร์เจนไตน์ทั้งประเทศเฝ้ารอมานานถึง 24 ปี ก็อาจจะถูกนำกลับไปยังนครบูโนสไอเรสในช่วงซัมเมอร์นี้เลยก็เป็นได้
2. คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo/Portugal)
คริสเตียโน โรนัลโด ปีกค่าตัวแพงที่สุดในโลก ของ รีล มาดริด คือนักเตะที่ขึ้นชื่อว่าสมบูรณ์แบบที่สุดคนหนึ่งเท่าที่โลกลูกหนังเคยมีมา เขามีทุกอย่างทั้งความแข็งแกร่งทางร่างกาย และจิตใจ เช่นเดียวกับเรื่องเทคนิค ซึ่งมีครบทั้งการผ่านบอล การกระชากลากเลื้อยและการยิงประตู ที่ทำได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นยิงไกล ชาร์จเผาขน การโหม่ง กระทั่งฟรีคิกและจุดโทษ โรนัลโด โด่งดังสุดขีดกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อเขาพา "ผีแดง" กวาดแชมป์ พรีเมียร์ลีก 3 สมัยซ้อน ระหว่างปี ค.ศ.2006-2008 โดยในปี ค.ศ. 2008 ซีอาร์ 9 ยังพา เรด เดวิลส์ ผงาดขึ้นครองเจ้ายุโรปได้ามสำเร็จมาแล้วอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมสร้างสถิติมหัศจรรย์กดไปถึง 42 ประตูรวมทุกรายการ โดยที่ไม่ได้เล่นในตำแหน่งกองหน้าด้วยซ้ำ ด้วยเสียงเพรียกของความฝันในวัยเยาว์ทำให้ โรนัลโด ตัดสินใจย้ายมาเล่นให้ รีล มาดริด ในฤดูกาลที่เพิ่งจบลงไปโดยถึงแม้ ปีกจอมสับ จะไม่สามารถพา "ราชันชุดขาว" ประสบความสำเร็จได้ดังที่แฟนบอลแชมป์ยุโรป 9 สมัยคาดหวัง แต่คงไม่มีใครตำหนิอะไรเขาได้ เมื่อเหลือบไปดูผลงานส่วนบุคคลที่เขาซัดให้ รีล ไปถึง 33 ประตูจาก 35 นัด กับซีซันแรกใน ซานติอาโก เบอร์นาบิวฟุตบอลโลกครั้งก่อนที่เยอรมนี โรนัลโด ซึ่งยังเป็นเพียงดาวรุ่งวัย 22 ปี พา โปรตุเกส ไปได้ไกลถึงรอบตัดเชือก ก่อนจะพ่ายให้ ฝรั่งเศส ไปอย่างน่าเสียดาย เช่นเดียวกับ เมสซี ใน เวิลด์คัพ ครั้งนี้ โรนัลโด กลับมาในฐานะนักเตะที่สมบูรณ์แบบขึ้นกว่าเดิมมาก การยิงประตูที่เคยถูกมองว่า เป็นจุดอ่อนเมื่อ 4 ปีก่อน บัดนี้กลายเป็นจุดแข็งโป๊กของเขาไปแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งว่า หนูโด้ จะสามารถพาทัพลูกหนังฝอยทองไปได้ไกลแค่ไหนที่แอฟริกาใต้ และระหว่างเขากับ เมสซี ใครกันแน่ที่เป็นเบอร์ 1 ของโลกตัวจริง
3. ริคาร์โด กากา (Ricardo Kaká/Brazil)
ริคาร์โด กากา เพลย์เมคเกอร์รูปงามจาก รีล มาดริด คือคนที่แฟนบอลชาวบราซิเลียนฝากความหวังเอาไว้มากที่สุดในฟุตบอลโลก 2010 กากา เริ่มต้นชีวิตค้าแข้งกับ เซา เปาโล เมื่อปี ค.ศ. 2001 ก่อนจะฉายแววโรจน์จนถูก เอซี มิลาน คว้าตัวไปร่วมทัพเมื่อปี ค.ศ. 2003 ตลอดช่วงเวลา 6 ปีในถิ่นซาน ซิโร กากา พา มิลาน ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์ กัลโช เซเรียอา ในฤดูกาล 2003/2004 และคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาล 2006/2007 ซึ่งยังส่งให้เขากลายเป็นเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ และนักเตะยอดเยี่ยมของฟีฟ่าประจำปีค.ศ. 2007 อีกด้วย กากา ตัดสินใจย้ายมาอยู่กับ ราชันชุดขาว ในซีซัน 2009/2010 แต่ยังทำผลงานได้ไม่เข้าตานัก เนื่องจากถูกปัญหาบาดเจ็บเล่นงานแทบตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตามในช่วยปลายฤดูกาล จอมทัพหน้าหยก กลับมามีสภาพร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง และโอกาสในการคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 6 ของขุนพลลูกหนังเมืองกาแฟ ก็ต้องขึ้นอยู่กับ กากาแล้วว่า จะสามารถกลับมาเป็นกากาคนเดิมเหมือนสมัยที่ยังลงเล่นในสีเสื้อ "ปิศาจแดงดำ" ได้หรือไม่
4. เฟอร์นานโด ตอร์เรส (Fernando Torres/Spain)
เฟอร์นานโด ตอร์เรส คือ 1 ใน 2 เทพเจ้าลูกหนังของแฟนบอลลิเวอร์พูลในยุค2000 "เอล นินโญ" ได้รับการยกย่องอย่างมากว่า เป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก เขาก้าวเข้าสู่ถนนสายลูกหนังครั้งแรกกับ แอตเลติโก มาดริด เมื่อปี ค.ศ. 2001 และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม "ตราหมี" ตั้งแต่อายุเพียง 19 ปี อย่างไรก็ตาม ด้วยองค์ประกอบที่ไม่เอื้ออำนวยมากนักใน บิเซนเต กัลเดรอน ทำให้ ตอร์เรส ไม่อาจทะลุขึ้นสู่ชั้นเวิลด์คลาสได้ ปีค.ศ. 2007 หัวหอกหน้าหยก ตัดสินใจบอกลาแอตเลติโก และย้ายเข้าสู่ แอนฟิลด์ ซึ่งที่นี่เองที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ได้อย่างเต็มตัวเมื่อเขาซัดไปถึง 33 ประตูในฤดูกาลแรกกับ "หงส์แดง" ปี ค.ศ. 2008 นับว่า เป็นปีทองของ ตอร์เรส อย่างแท้จริง เมื่อเขาพาสเปน คว้าแชมป์ระดับชาติได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ทศวรรษใน ศึก ยูโร 2008 แถมยังเป็นผู้ยิงประตูชัยให้ "กระทิงดุ" เฉือนเยอรมนีในรอบชิงดำอีกด้วย ในฤดูกาล2009/10 ซึ่งเพิ่งปิดฉากลงไปนั้น ตอร์เรส ทำผลงานไม่เป็นชิ้นเป็นอันมากเนื่องจากถูกโรคเดี้ยงตามเล่นงานเป็นชุด อย่างไรก็ตาม แฟนบอลสแปนิชทั้งประเทศจะต้องสวดมนต์ภาวนาให้ ตอร์เรส กลับมาอยู่ในสภาพที่ฟิตสมบูรณ์สุดขีดใน ฟุตบอลโลก ที่แอฟริกาใต้ เพราะเขาคือกุญแจสำคัญที่จะพาทีมคนสู้วัวไปสู่ตำแหน่งแชมป์โลกสมัยแรกสมดังหวัง
5. เวย์น รูนีย์ (Wayne Rooney/England)
เวย์น รูนีย์ หัวหอกร่างอวบจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือนักเตะที่คนอังกฤษเชื่อว่าจะสามารถพา "สิงโตคำราม" ไปสู่ตำแหน่งแชมป์โลกสมัยที่ 2 ได้สำเร็จใน เวิลด์ คัพ2010 ที่แอฟริกาใต้ หลัง หัวหอกผีแดง ระเบิดฟอร์มสุดยอดกระหน่ำไปถึง 34 ประตูรวมทุกรายการในซีซั่นที่ผ่านมา พร้อมคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทั้งสมาคมนักเตะอาชีพและสมาคมนักข่าวของอังกฤษไปครองอย่างยิ่งใหญ่ จุดเด่นของ รูนีย์ อยู่ที่พละกำลังและความแข็งแกร่ง รวมถึงเทคนิค และความเร็วที่ไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่าสุดยอดกองหน้าของโลกในยุคนี้คนไหนมากนัก ปัญหาเดียวที่ยังสร้างความกังวลใจให้กับ ฟาบิโอ คาเปลโล กุนซือทีมชาติอังกฤษ ในยามนี้ ก็คือสภาพความฟิตของ รูนีย์ ซึ่งร่างกายบอบช้ำไม่น้อยจากการกรำศึกหนักให้ "ปิศาจแดง" อย่างไรก็ตาม ถ้าดาวยิงพ่อลูกอ่อน ก้าวลงสนามใน ฟุตบอลโลก
ฉบับแอฟริกัน ด้วยความสมบูรณ์สุดขีด "ทรีไลออนส์" ก็น่าจะไปได้ไกลจนถึงรอบตัดเชือกได้เป็นอย่างน้อยเลยทีเดียว
6. อาร์เยน ร็อบเบน (Arjan Robben/Holland)
หลังจากถูก รีล มาดริด เขี่ยทิ้งอย่างไม่ไยดี อาร์เยน ร็อบเบน ก็กลับมาพิสูจน์ถึง
ความเป็นอัจฉริยะลูกหนังได้อีกครั้ง ด้วยการพาต้นสังกัดใหม่ อย่าง บาเยิร์น มิวนิก ซิวดับเบิลแชมป์ บุนเดสลีกา และเยอรมัน คัพ ในฤดูกาลล่าสุด และมันเกือบจะกลายเป็นทริปเปิลแชมป์เลยด้วยซ้ำหาก "เสือใต้" ไม่พลาดท่าถูก อินเตอร์ มิลาน หักเขี้ยวในรอบชิงดำแชมเปี้ยนส์ ลีก เสียก่อน ร็อบเบน คือนักเตะระดับกระดูกสันหลังของ ฮอลแลนด์ เช่นเดียวกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี และเวสลีย์ สไนจ์เดอร์แม้จะถูกค่อนขอดว่า เป็นฟุตบอลแบบชายเดี่ยว
แต่ถ้าให้เลือกทุกทีมก็น่าจะอยากมี ร็อบเบน อยู่กับตัวมากกว่าที่จะเห็นเขายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามในวันที่ท็อปฟอร์ม ร็อบเบน คือนักเตะที่แทบจะหาใครมาหยุดไม่ได้เลย แถมยังสามารถทำประตูได้จากทุกระยะ ทุกองศาอีกด้วย
7. ฟรองค์ ริเบรี (Franck Ribery/France)
นอกจาก ลิโอเนล เมสซี และคริสเตียโน โรนัลโด แล้ว ฟรองค์ ริเบรี คืออีกหนึ่งนักเตะที่ขึ้นชื่อว่า เป็นที่สุดของแจ้เช่นกัน ปีกทีม
ชาติฝรั่งเศส มีฝีเท้าน่ากลัวไม่แพ้ใบหน้าและเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่พา บาเยิร์น มิวนิกซิวดับเบิลแชมป์มาครองในฤดูกาลล่าสุด น่าเสียดายที่ "ไกเซอร์ฟรองค์" ถูกพิษใบแดงเล่นงานจนชวดลงสนามในนัดชิงดำ แชมเปี้ยนส์ลีก กับ อินเตอร์ มิลาน ไม่เช่นนั้น ดับเบิลแชมป์ของ "เสือใต้" อาจจะกลายเป็นทริปเปิลแชมป์ไปแล้วก็ได้ ริเบรี ผ่านฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้ว 1 สมัย เมื่อปี ค.ศ. 2006 ซึ่งขุนพล "ตราไก่" พ่าย อิตาลี ในรอบชิงชนะเลิศ และยังคงเป็นตัวความหวังของทีมเหมือนเดิมใน เวิลด์ คัพ ฉบับแอฟริกัน
8. ดิดิเยร์ ดร็อกบา (Didier Drogba/Cote d'Ivoire)
ดิดิเยร์ ดร็อกบา คือความหวังสูงสุดของ ไอวอรีโคสต์ ใน ฟุตบอลโลก 2010 กองหน้าจอมแกร่งจาก เชลซี กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มดีที่สุดในชีวิต หลังพา "สิงห์สำอาง" ฟาดดับเบิลแชมป์ พรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ มาครองอย่างยิ่งใหญ่ในฤดูกาลล่าสุด แถมตัวเองก็ครองตำแหน่งดาวยิงสูงสุดของลีกอีกต่างหาก"เดอะ ดร็อก" อุดมไปด้วยความแข็งแกร่ง ยิงประตูได้อย่างเฉียบคม แถมยังมีทีเด็ดจากลูกตั้งเตะอีกต่างหาก ถ้าใน เวิลด์ คัพ ที่แอฟริกาใต้ หาก ดร็อกบา สามารถพา "ช้างดำ" ผ่านรอบแรก ซึ่งมีเพื่อนร่วมกลุ่มเขี้ยวลากดินอย่าง บราซิล โปรตุเกส และเกาหลีเหนือไปได้ โอกาสที่พวกเขาจะไปได้ไกลถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ก็นับว่า มีอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
9. ดานิเอเล เด รอสซี (Daniele De Rossi/Italy)
ถึงแม้จะเป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 แต่โดยส่วนตัวแล้ว ดานิเอเล เด รอสซี มีความทรงจำที่ไม่ดีนักกับ เวิลด์ คัพ ที่เยอรมนี หลังไปออกลูกเกเรจนโดนตะเพิดออกจากสนามในเกมรอบแรก กับ สหรัฐ อย่างไรก็ตาม สำหรับฟุตบอลโลก ที่แอฟริกา เด รอสซี ยืนยันว่า จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยขึ้นอย่างแน่นอน เด รอสซี จัดเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่ง หัวจิตหัวใจของเขาแข็งแกร่งเกินร้อย แถมยังจ่ายบอลได้อย่างชาญฉลาด และมีทีเด็ดจากการยิงจากแถว 2 ด้วยความยอดเยี่ยมอย่างที่กล่าวมา โรมา จึงหวง เด รอสซีราวกับไข่ในหิน และยืนกรานว่า จะไม่ยอมขายดาวเตะลูกหม้อรายนี้ ให้ใครแน่นอน โดยเฉพาะพ่อบุญทุ่มอย่าง รีล มาดริด
10. ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ (Javier Hernandez/Mexico)
ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ คือเพชรเม็ดงามของวงการลูกหนังเม็กซิกันยุคปัจจุบัน เขาเริ่มต้นชีวิตค้าแข้งกับ ชีวาส กัวดาลายารา สโมสรยักษ์ใหญ่ในบ้านเกิด และทำผลงานได้ดีจนกระทั่งถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าตัวมาร่วมสังกัดเรียบร้อย การย้ายมาอยู่กับ "ปิศาจแดง" ทำให้ เอร์นานเดซ กลายเป็นนักเตะที่แฟนบอลทั้งโลกหันมาจับตามองทันที ในฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ดาวยิงเจ้าของฉายา "ชิชาริโต้" หรือ "เจ้าถั่วลันเตาน้อย" ซึ่งมาจากดวงตาสีเขียวสดใส จะเป็นหนึ่งในขุนพลคนสำคัญของ เม็กซิโก และน่าจะมีลุ้นออกสตาร์ตเป็นตัวจริงไม่น้อย หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมอุ่นเครื่อง 2 นัดหลังสุดกับ ฮอลแลนด์ และแกมเบีย โดยซัดไปถึง 3 ตุงเน้น ๆ
9:12 PM
|
Labels:
Soccer
|