เบสบอลคล้ายๆกับอเมริกันฟุตบอลตรงที่ว่ามีการเล่นแบบทีมบุกและทีมรับ แต่สำหรับเบสบอลทั้งทีมบุกและทีมรับใช้ผู้เล่นชุดเดียวกันชุดละ 9 คน

ทีมรับจะกระจายกันยืนทั่วสนาม คือ
1. คนขว้างลูก (เรียกว่า พิทเชอร์/Pitcher)
2. คนรับลูก (เรียกว่า แค็ทเชอร์/Catcher ที่นั่งยองๆอยู่หลังโฮมเพลท)
3-6. 4 คนยืนอยู่ใกล้ๆเบสที่ 1-2-3 คอยกันลูกระยะใกล้ (เรียกว่า อินฟิลเดอร์/Infielders)
7-9. 3 คนประจำอยู่ในสนามระยะไกลออกไป (เอาท์ฟิลเดอร์/Outfielders)

ทีมบุกจะขึ้นมาตีลูกทีละคน เรียกว่า แบ็ตเตอร์/Batter หรือคนตีลูก คนตีลูกจะพยายามตีให้ได้ hit คือตีแล้วสามารถวิ่งไปถึงอย่างน้อยเบสที่ 1 โดยปลอดภัย
____________________________________________________________________

Hitter vs Pitcher
การตีให้ได้ hit เป็นเรื่องยาก ใครที่สามารถตีให้ได้ hit เกิน 30% ถือว่าเก่งแล้ว ใครได้ถึง 35% นี่ดูเหมือนจะได้แชมป์ด้านการตีแล้ว

ที่ยากเพราะคนขว้างลูก (พิทเชอร์) นั้นมีเทคนิกในการขว้างสูง เขาจะขว้างลูกด้วยความเร็วสูงเข้าไปในโซนที่เป็นกรอบสี่เหลี่ยมในใจของกรรมการ กรอบนี้อยู่สูงระหว่างหัวเข่าถึงเอว และกว้างประมาณความกว้างของโฮมเพลท

ถ้าพิทเชอร์ขว้างลูกเข้าไปในโซนนี้แล้วแบ็ตเตอร์ไม่ตีหรือตีไม่ถูก กรรมการจะให้สัญญาณเป็น 1 สไตร้ค์ (strike) แต่ถ้าคนขว้างลูกขว้างออกนอกโซนกรรมการจะตัดสินเป็น 1 บอล (ball)

นอกจากนี้บางครั้งแบ็ตเตอร์ก็ตีลูกฟาวล์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นสไตร้ค์เหมือนกัน แต่การตีลูกฟาวล์จะไม่มีผลเมื่อครบ 2 สไตร้ค์แล้ว
____________________________________________________________________

Ball: การขว้างเสีย
ถ้าพิทเชอร์ขว้างเสียถึง 4 ครั้ง (4 balls) แบ็ตเตอร์จะได้ว็อล์ก (walk) คือสามารถเดินไปถึงเบสที่ 1 ได้อย่างปลอดภัย
____________________________________________________________________

Strike: การตีพลาด
แต่ถ้าแบ็ตเตอร์เสียถึง 3 สไตร้ค์ หรือตีลูกไปให้ทีมรับรับลูกกลางอากาศ หรือทีมรับจับลูกที่ตกบนพื้นแล้วสามารถแตะแบ็ตเตอร์ตายได้ แบ็ตเตอร์ก็ต้องออกจากการตี ถือว่าทีมบุกเสีย 1 เอ๊าท์ (out) ถ้าทีมบุกเสียถึง 3 เอ๊าท์ก็เปลี่ยนให้ทีมรับกลับมาเป็นฝ่ายตีลูกแทน แล้วทีมบุกไปเป็นทีมรับแทน
____________________________________________________________________

Inning: ภาษามวยเขาเรียกเป็น "ยก"
แต่ละทีมผลัดกันเล่นคนละครั้ง (ครั้งละ 3 เอ๊าท์) เรียกว่า 1 อินนิ่ง (inning) หรือ 1 ยก แต่ละเกมจะเล่นกันถึง 9 อินนิ่ง หรือ 9 ยก
____________________________________________________________________

Score: การทำคะแนน
การทำคะแนนอยู่ที่ทีมบุกจะสามารถวิ่งผ่านเบสที่ 1 เบสที่ 2 เบสที่ 3 แล้วมาแตะโฮมเบสได้หรือไม่ ถ้าสามารถมาแตะโฮมเบสได้ 1 คน เรียกว่าได้ 1 รัน (run) ทีมที่ได้รันมากกว่าเมื่อเล่นครบ 9 อินนิ่งแล้วคือผู้ชนะเกมนั้น
____________________________________________________________________

Base Load: สถานการอันตรายสุดๆของทีมรับ
แต่ถ้าหากสถานการณ์การเล่นออกมาในลักษณะที่มีคนของฝ่ายตีไปยืนอยู่ครบทั้งสามเบส เขาเรียกว่าเบสโหลดจนเต็มทุกเบส ตอนนี้ถือว่าอันตรายที่สุด เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตายเลยที่เดียว ถ้าหากฝ่ายตีๆลูกออกไปนอกขอบสนามเป็นโฮมรัน คนที่ยืนอยู่ในเบสจะวิ่งไปแตะโฮมเบสได้ทั้งหมด เขาจะฟันทีเดียวหลายแต้มเลย เพราะหนึ่งคนจะได้หนึ่งแต้ม แต่ถ้าตีไม่ถูกจนเปลี่ยนออกจนครับสามคน หรือตีแล้วฝ่ายรับสามารถรับลูกกลางอากาศได้ ที่ยืนเกาไข่ตามเบสต่างๆต้องเดินกลับคอกทั้งหมด แล้วให้อีกฝ่ายมาเป็นฝ่ายรับแทน
____________________________________________________________________