ตามสูตรบอลคู่เปิดสนาม 'เจ้าภาพ' เจ๊า 'จังโก้' 'ตราโก่' ฟอร์มกำลังฝืดกิน 'จอมโหด' ไม่ลงแน่
ตามสูตรบอลคู่เปิดสนาม 'เจ้าภาพ' เจ๊า 'จังโก้' 'ตราโก่' ฟอร์มกำลังฝืดกิน 'จอมโหด' ไม่ลงแน่
แล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็เดินทางมาถึงจนได้ เมื่อศึก “ฟุตบอลโลก 2010” ที่แอฟริกาใต้ ได้ฤกษ์เปิดฉากฟาดแข้งกันแล้วในวันนี้ 11 มิ.ย. โดยจะมีเกมลงเตะ 2 คู่ ในกลุ่ม A
หลังพิธีเปิดเสร็จสิ้น “เจ้าภาพ” แอฟริกาใต้ จะลงเตะนัดเปิดสนามกับ “จังโก้” เม็กซิโก ในเวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย จากนั้นอีก 4 ชั่วโมงครึ่ง “จอมโหด” อุรุกวัย จะลงดวลฝีเท้ากับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส ในเวลา 01.30 น.
ความเคลื่อนไหวและรายละเอียดเกี่ยวกับเกมการแข่งขันทั้งสองคู่ ทีมงาน “บอย เน็กซ์ ดอร์” ได้คัดสรรมานำเสนอต่อท่านผู้อ่าน “กีฬาเดลินิวส์” ทุกท่านแล้วครับ ไปลุยกันได้เลย
ศึกฟุตบอลโลก 2010
กลุ่ม A
แอฟริกาใต้ - เม็กซิโก
สนามซอคเกอร์ ซิตี สเตเดี้ยม
เมืองโยฮันเนสเบิร์ก“บาฟานา บาฟานา” แอฟริกาใต้ เจ้าภาพศึกเวิลด์คัพครั้งนี้ จะลงเตะนัดเปิดสนามพบกับ “จังโก้” เม็กซิโก ทีมเจ้าประจำในรอบสุดท้าย ถือเป็นเกมนัดแรกที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ใครเก็บชัยชนะได้ก่อน จะถือความได้เปรียบไว้ในมือ เพราะมี 3 แต้มให้อุ่นใจ อีก 2 แมตช์ที่เหลือ หากเก็บชัยได้อีกนัด โอกาสผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์มีเปอร์เซ็นต์สูงมาก
สำหรับแอฟริกาใต้ นี่คือฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายหนที่ 3 ของพวกเขา หลังเคยผ่านเข้ามาเล่นในปี ค.ศ. 1998 ที่ฝรั่งเศส และ 2002 ที่เกาหลีใต้กับญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วม อย่างไรก็ดี ผลงานของพวกเขาไม่สู้ดีนัก ตกรอบแรกทั้งสองครั้ง ลงเล่นไป 6 นัด ชนะนัดเดียว เสมอ 3 แพ้ 2 ยิงได้ 8 เสีย 10 หากแยกแยะเป็นผลงานในแต่ละครั้ง ฟุตบอลโลก 1998 แอฟริกาใต้ อยู่กลุ่ม C ร่วมกับ ซาอุดีอาระเบีย, ฝรั่งเศส และเดนมาร์ก นัดแรกถูก ฝรั่งเศส ยำใหญ่ 4-0, นัดที่ 2 เสมอ เดนมาร์ก 1-1, นัดสุดท้าย เสมอ ซาอุดีอาระเบีย 2-2 มี 2 คะแนน ได้อันดับ 3 ของกลุ่ม ตกรอบชนิดไม่มีลุ้น ส่วนในฟุตบอลโลก 2002 แอฟริกาใต้ อยู่กลุ่ม B ร่วมกับ ปารากวัย, สเปน และสโลวีเนีย นัดแรกเสมอ ปารากวัย 2-2, นัดที่ 2 ชนะ สโลวีเนีย 1-0, นัดสุดท้าย แพ้ สเปน 2-3 มี 4 คะแนนเท่ากับ ปารากวัย แต่ต้องตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย เพราะลูกได้เสียเป็นรอง
ส่วน เม็กซิโก ผ่านเข้ารอบสุดท้ายศึกเวิลด์คัพมาแล้ว 13 ครั้ง ถือเป็นทีมที่มีผลงานดีที่สุดในฟุตบอลโลกตลอดกาลเป็นอันดับ 13 ลงเล่นไปแล้ว 45 นัด ชนะ 11 เสมอ 12 แพ้ 22 ได้ 48 เสีย 82 เก็บแต้มรวมได้ทั้งหมด 45 คะแนน เฉลี่ยได้ 1 แต้มทุก ๆ 1 นัดที่ลงสนาม ผลงานดีที่สุดคือ ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในปี ค.ศ. 1970 และ 1986
ทั้งคู่ไม่เคยเจอกันมาก่อนในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ทางเจ้าภาพนำทัพโดย สตีเวน พีนาร์, คากิโช ดิคกาคอย, แบร์นาร์ด ปาร์คเกอร์, คัตเลโก เอ็มเฟลา, อารอน โมโคเอนา ขณะที่ จังโก้ ต้องรอลุ้นว่า ราฟาเอล มาร์เกซ ปราการหลังคนสำคัญจะฟิตพร้อมลงสนามหรือไม่ หลังเพิ่งหายเจ็บกล้ามเนื้อขาขวา ฝั่ง กิลเลอร์โม ฟรังโก กองหน้าตัวเก๋าที่ลงซ้อมได้เต็มที่แล้ว น่าจะพร้อมสำหรับเกมนี้ สำหรับตัวหลักรายอื่น ๆ อย่าง จิโอวานี ดอส ซานโตส, คาร์ลอส เวลา, ฮาเวียร์ เฮอร์นันเดซ, เกราร์โด ทอร์ราโด และอันเดรส กัวร์ดาโด พร้อมลงสนามทั้งหมด มี คูห์เตมอค บลังโก ดาวเตะตัวเก๋าเป็นตัวสำรองที่จะลงมาพลิกสถานการณ์ในครึ่งหลัง
ทาง แอฟริกาใต้ อยู่ในช่วงที่ฟอร์มกำลังแรงสุด ๆ แม้จะไม่ได้ลงเตะในรอบคัดเลือก แต่พวกเขาลงเล่นเกมอุ่นเครื่องอยู่ตลอดไม่เคยขาด นับตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา พวกเขาอุ่นแข้งไป 5 นัด ชนะ 4 เสมอ 1 หนสุดท้ายที่พวกเขาพบกับความปราชัย ต้องถอยหลังไปเมื่อ 5 ก.ย. ปี ค.ศ. 2009 บุกไปแพ้ เยอรมนี 0-2 หลังจากนั้นอีก 10 นัด พวกเขาไม่แพ้ใครเลย ฝ่าย จังโก้ เป็นทีมที่ขยันอุ่นเครื่องมากที่สุดจากทั้งหมด 32 ทีม นับตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา พวกเขาลงอุ่นแข้งไปแล้ว 8 นัด ชนะ 5 เสมอ 1 แพ้ 2 นัดท้ายสุดฟอร์มแจ่มเอาชนะ อิตาลี 2-1
ปกติเกมนัดเปิดสนามในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ มักจะจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 ถือเป็นสกอร์ยอดฮิต และเกมนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ดี นี่คือบอลที่ออกได้ทั้งสามหน้า โอกาสที่เจ้าภาพจะชนะอยู่ที่ 35 เปอร์เซ็นต์ โอกาสออกเสมอ 45 เปอร์เซ็นต์ โอกาสที่จังโก้ จะชนะ 20 เปอร์เซ็นต์
สกอร์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น - เสมอ 1-1
อุรุกวัย - ฝรั่งเศส
สนามกรีน พอยต์ สเตเดี้ยม
เมืองเคป ทาวน์“จอมโหด” อุรุกวัย ทีมดังจากทวีปอเมริกาใต้ จะลงเตะนัดแรกเจอกระดูกชิ้นโต “ตราไก่” ฝรั่งเศส รองแชมป์โลกเมื่อปี ค.ศ. 2006 อุรุกวัย ลงเล่นในรอบสุดท้ายไปแล้ว 10 ครั้ง คว้าแชมป์โลกได้ในฟุตบอลโลกครั้งแรก 1930 และอีกครั้งในปี ค.ศ. 1950 ทว่า นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1974 พวกเขาไม่เคยไปไกลเกินกว่ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ผลงานตลอดกาลในบอลโลก ลงเตะ 40 นัด ชนะ 15 เสมอ 10 แพ้ 15 ขณะที่ ฝรั่งเศส ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาแล้ว 12 ครั้ง ได้แชมป์ 1 ครั้งในปี ค.ศ. 1998 ลงเล่นในบอลโลกรอบสุดท้ายไปแล้ว 51 นัด ชนะ 25 เสมอ 10 แพ้ 16
ฟอร์มการเล่นของจอมโหดในช่วงนี้ ถือว่าใช้ได้ เป็นทีมที่ไม่ว่าใครก็ประมาทไม่ได้โดยเด็ดขาด นำทัพโดย ดีเอโก ฟอร์ลัน, หลุยส์ ซัวเรซ, ดีเอโก ลูกาโน, ดีเอโก เปเรซ, เอดิสัน คาวานี, มาร์ติน คาเซเรส, เฟอร์นันโด มัสเลรา ขณะที่ตราไก่ ฟอร์มระยะหลังไม่สู้ดีนัก ด้านตัวกุนซือ เรย์มงด์ โดเมเน็ค ก็ไม่ได้รับการยอมรับจากแฟนบอล ทำให้ทีมมีปัญหาค่อนข้างมาก เกมอุ่นแข้งล่าสุด ปราชัยต่อ จีน 0-1 ชนิดขายขี้หน้าคนไปทั้งโลก เกมนี้ตราไก่จึงต้องกู้หน้ากลับคืนมาให้ได้ หากมองดูชื่อชั้นนักเตะ พวกเขาไม่เป็นรองใครทั้งสิ้น นำทัพโดย ฟรองค์ ริเบรี, นิโกลาส์ อเนลกา, ฟลอรองต์ มาลูดา, บาการี ซานญา, ปาทริซ เอฟรา, โยฮัน กูร์คุฟฟ์, เฌเรมี ตูลาลอง มี เธียร์ อองรี รับบทตัวสำรองที่จะคอยลงมาพลิกสถานการณ์
ถือเป็นเกมที่คู่คี่สูสีกันมาก ๆ แม้ชื่อชั้นนักเตะของฝรั่งเศสจะดีกว่า แต่ฟอร์มช่วงหลังไม่ค่อยดีนัก จึงทำให้ไม่ได้เปรียบ อุรุกวัย แต่อย่างใด ตามปกติเกมนัดแรกของทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ กุนซือจะวางแท็กติกให้ลูกทีมระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ เพราะถ้าแพ้ตั้งแต่เริ่ม อีก 2 นัดที่เหลือหนักมาก ยังไงต้องเก็บผลเสมอให้ได้เป็นอย่างน้อย หากชนะยิ่งดีใหญ่ ดูแล้วคู่นี้ไม่น่าจะกล้าลุยใส่กันเต็มสูบแน่ คงจะกล้า ๆ กลัว ๆ เน้นเหนียวไว้ก่อน จนออกผลเสมอชนิดไร้สกอร์
สกอร์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น - เสมอ 0-0
4:05 PM
|
Labels:
Soccer
|