ปรีวิวฟุตบอลโลก: Day 1


แอฟริกาใต้ VS เม็กซิโก
วันศุกร์ที่ 11 มิ.ย. เวลา 10.00 น.
สนาม : ซอกเกอร์ ซิตี้ สเตเดี้ยม , โยฮันเนสเบิร์ก
ผู้ตัดสิน ; ราฟชาน อีร์มาตอฟ (อุสเบกิสถาน)
สถิติ ; พบกัน 3 ครั้ง แอฟริกาใต้ ชนะ 1 แพ้ 2 ได้ 4 เสีย 9
ถ่ายทอดสด ESPN 9:25-12:00 น.

ผลงานก่อนบอลโลก
3 นัดล่าสุด แอฟริกาใต้ ชนะ โคลอมเบีย 2-1, ชนะกัวเตมาลา 5-0 ชนะ เดนมาร์ก 1-0
3 นัดล่าสุด เม็กซิโก แพ้ฮอลแลนด์ 1-2, ชนะแกมเบีย 5-1 ชนะ อิตาลี 2-1

แอฟริกาใต้
เทรนเนอร์ ; คาร์ลอส ปาร์ไรรา (บราซิล) ระบบ 4-4-2
คาร์ลอส ปาร์ไรรา โค้ชชาวบราซิลคุมทีมชุดนี้ในช่วงเวลาที่ไม่นานนักเพราะเข้ามาแทนโค้ชเดิม โจเอล ซานตานา ไม่ได้รับความไว้วางใจจากสหพันธ์ฟุตบอลแอฟริกาใต้ ว่าจะรับมือกับงานในฐานะเจ้าภาพได้ดี ตามสถิติของฟุตบอลโลกเจ้าภาพจะผ่านเข้ารอบสองและไม่เคยตกรอบแรกได้เลย

อย่างไรก็ตามการเลือก ปาร์ไรรา ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะ ปาร์ไรรา เคยคุมทีมแอฟริกาใต้มาแล้วเมื่อปี 2007 เขาทำให้ทีมมีผลงานลุ่มๆดอนๆ จากอันดับ 69 ร่วงลงไปอยู่อันดับ 83 เขาทำงานกับทีมนานถึง 21 นัดก่อนกลับบราซิลเพราะภรรยาป่วยเป็นโรคมะเร็ง เป็นเพื่อนร่วมชาติ โจเอล ซานตานา มาทำงานแทน กระทั่งเตะคอนเฟเดอเรชั่น คัพได้อันดับสี่

การกลับมารอบสองไม่ทำให้ ปาร์ไรรา เสียเวลาปรับตัวนาน เขาสามารถใช้งานนักเตะชุดเดิมที่ร่วมงานกับเขาในทีมชาติมาก่อนหน้านี้สองปีเต็ม ปาร์ไรรา เลือกใช้นักเตะอาชีพในลีกแอฟริกาใต้เป็นแกน นักเตะจากยุโรป 2-3 คนเท่านั้นที่ได้โอกาสอย่างเช่น โมโคเอนา กองกลางจากพอร์ตสมัธ , สตีเวน พีนาร์ ของเอฟเวอร์ตัน โดยนักเตะที่น่าจับตามองนั้นเป็น เทโก โมดิเซ กลางตัวรุกจากทีม ออร์แลนโด ไพเรทส์ ในแอฟริกาใต้

ก่อนลงสนามพบเม็กซิโก ในการทำงานของ ปาร์ไรรา ทีมเจ้าภาพไม่แพ้ใคร 14 เกมติดต่อกัน....การอุ่นเครื่องสามนัดสุดท้ายเลือกทีมที่อาจพบและทดลองนักเตะ 4-5 คนเพื่อเป็นตัวสำรองสอดแทรกตัวจริง โดยมีแกนนำอย่าง โมโคเอนา, โมดิเซ ทำเกมรุกและดาวยิง เอ็มโฟโล รวมทั้งได้ ดิกาชอย ของฟูแล่ม พร้อมเล่นแล้ว

11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม (ระบบ 4-4-2)
ผู้รักษาประตู – คูเน
กองหลัง – เอ็งกอนก้า, คูมาโล, โมโคเอนา, ทีชวาลา
กองกลาง – ทีชาบาลา, พีนาร์, โมดิเซ, ดิกาชอย
กองหน้า – เอ็มเฟลา, เลตโชโลยาเน

เม็กซิโก
เทรนเนอร์ ; ฮาเวียร์ อกีร์เร ระบบ 4-3-3
จังโกมีเส้นทางไม่ราบเรียบในการคัดเลือก มีการเปลี่ยนแปลงโค้ช จากสเวน โกรัน อีริคส์สัน ทำงานช่วงสั้นๆจนผลงานย่ำแย่จึงโดน ฮาเวียร์ อกีร์เร อดีตดาวเตะชื่อดังทีมชาติเมกซิโกชุดบอลโลก 1986 รับหน้าที่แทน อกีร์เร เป็นคนนำเมกซิโก รอดพ้นวิกฤตผ่านคัดเลือกได้อันดับสอง

ทีมชุดนี้ อกีร์เร เลือกนักเตะมากประสบการณ์เป็นแกนนำอย่าง ตอร์ราโด ที่ผ่านเกมกับทีมชาตินับไม่ถ้วน เช่นเดียวกันกับ ราฟาเอล มาร์เกซ โดยแนวรุกนั้นจัดว่าเป็นประเภทดาวรุ่งพรุ่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น คาร์ลอส เวลา , โจวานนี ดอส ซานโตส ที่ปัจจุบันถูกยืมตัวจากสเปอร์สไปเล่นในตุรกี

อีกคนหนึ่งเป็นนักเตะแมนฯยูไนเต็ดหมาดๆคือ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ กองหน้ารูปหล่อที่มีความเร็วเล่นบอลฉลาด น่าจะยืนตัวจริงในแนวรุกสามคนในกลยุทธ์ของ อกีร์เร

11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม (ระบบ 4-3-3)
ผู้รักษาประตู – กิเยร์โม โอชัว
กองหลัง - ซัลซิโด, โรดริเกซ, ออซาริโอ, อกีลาร์
กองกลาง – ตอร์ราโด, มาร์เกซ, ฮัวเรซ
กองหน้า – เอร์นานเดซ, เวล่า, ดอส ซานโตส

แบ่งแต้มหรือจังโก้...
เทียบตัวต่อตัวแล้วมาตรฐานส่วนตัวของ เม็กซิโก ดูดีกว่าทางด้านแอฟริกาใต้ เทียบฝีมือโค้ชแล้ว ปาร์ไรรา มีประสบการณ์มากกว่าในระดับชาติ เกมนัดนี้เจ้าภาพคงเล่นกันเกินร้อย เป็นเกมเปิดสนามท่ามกลางแฟนบอลของตัวเอง

จัดกลยุทธ์อย่างไร นักเตะแอฟริกาใต้ คงเล่นแบบถวายชีวิต ขึ้นอยู่กับเมกซิโกว่าจะรับมือกับการเล่นแบบสู้ยิบตามากขนาดไหน เพราะปกติ เม็กซิโก ไม่ชอบบอลที่เข้าหาประชิดตัวหรือเล่นเกมแบบเพรสซิงเท่าไหร่นัก ดังนั้นนัดนี้เชื่อว่า อกีร์เร คงวางเกมโต้กลับเอาไว้สอนเชิง แอฟริกาใต้อย่างเต็มที่ เพราะแนวรุกจังโกเร็วทุกคน

เกมที่เล่นกับอิตาลีคือเกมที่เม็กซิโก จะใช้ในการเปิดตัว

เชื่อว่า แอฟริกาใต้ อาจเล่นได้ใจ คอนโทรลเกมได้ แต่เจาะกองหลังเม็กซิโก ลำบาก ลุ้นให้พลาดอย่างเดียว นัดนี้โอกาสเข้าทำคงมีน้อยด้วยกันทั้งสองทีม

การแบ่งแต้มเป็นเรื่องปกติสำหรับนัดเปิดสนาม...แต่ถ้าให้เลือกทีมชนะ เม็กซิโก ดูดีกว่าเจ้าภาพ

ฝรั่งเศส VS อุรุกวัย
วันศุกร์ที่ 11 มิ.ย. เวลา 02.30 น.
สนาม : กรีนพอยน์ สเตเดี้ยม เมือง เคปทาวน์
ผู้ตัดสิน ; ยูอิชิ นิชิมูระ (ญี่ปุ่น)
สถิติ ; พบกันมา 4 ครั้ง ชนะกันทีมละ 1 เสมอกัน อีก 2 ครั้ง ฝรั่งเศสยิงได้ 2 อุรุกวัยยิงได้ 3
ถ่ายทอดสด ESPN 2:00-4:30 น.

ผลงานก่อนบอลโลก
3 นัดล่าสุด ฝรั่งเศส ชนะ คอสตาริก้า 2-1 เสมอ ตูนีเซีย 1-1 แพ้ จีน 0-1
3 นัดล่าสุด อุรุกวัย เสมอ คอสตาริก้า 1-1, ชนะ สวิสเซอร์แลนด์ 3-1 ชนะอิสราเอล 4-1

ฝรั่งเศส
แชมป์โลก 1 สมัย จะใช้บริการ เรย์มง โดเมเนค เป็นครั้งสุดท้ายก่อนส่งมอบให้ โลรองต์ บลองก์ รับงานแทน ทีมตราไก่เดินทางมาแอฟริกาใต้ด้วยสภาพที่บอบช้ำสุดๆ นอกจากจะเตะเพลย์ออฟแล้วยังโชคดีมีบุญเมื่อ จังหวะประตูชัยของพวกเขานั้นมีต้นตอมาจากการทำแฮนด์บอล ของเธียร์รี อองรี เอามือปัดบอลช่วยถึงสองจังหวะ

ทีมชุดนี้ถูกมองว่ามีศักยภาพไม่เพียงพอที่จะไปได้ไกลในฟุตบอลโลก การไปถึงชิงชนะเลิศเหมือนเมื่อเที่ยวที่แล้วน่าจะเป็นอะไรที่ไม่อยู่ในความคาดหมาย นี่คือทีมที่ถูกสร้างใหม่หลังจากหมดยุคของ ซีเนอดีน ซีดาน, ปาทริค วิเอรา ไปแล้ว

โดเมเนค พยายามอย่างยิ่งที่จะผสมผสานทีมจากนักเตะกำลังสำคัญหลายคน อย่างไรก็ตามมองให้ลึกลงไปพบว่าฝรั่งเศสมีดีที่แนวรับซึ่งเป็นนักเตะชั้นนำของสโมสรใหญ่ บาร์ซา, อาร์เซนอล, แมนฯยูฯ แดนกลางใช้ได้ทีเดียว ทั้งจากลียง, เชลซี, บาเยิร์น มิวนิค และ บอร์กโดซ์ ขณะที่กองหน้าเป็นดาวยิงเชลซี ซึ่งจากการอุ่นเครื่อง โดเมเนค เปิดไต๋มาแล้วว่าเขาจะเลือกใครเล่น 11 คนแรกบ้าง

แนวรับก็ทั้ง ซานญา, เอวรา, อบิดัล ที่เล่นบาร์ซ่าเป็นแบกแต่กับทีมชาติจะยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟกับ กัลป์ลาส ขณะที่แดนกลางตัวตัดเกม ตูลาลอง เล่นกับ มาลูดา และ กูร์กกุฟ โดย ริเบรี , อเนลก้า และ โกวู ยืนข้างหน้า

สตาร์ดังของทีมชุดนี้จะเป็น ฟร้องค์ ริเบรี กับ อเนลก้า ขณะที่ อองรี เป็นได้แค่ตัวสำรองที่รอเวลาลงสนามเท่านั้น

11 คนแรกที่คาด (ระบบ 4-3-3)
ผู้รักษาประตู - ยอริส
กองหลัง – เอวรา, อบิลดัล, กัลป์ลาส, ซานญา
กองกลาง – มาลูด้า, กูร์กกุฟ, ตูลาลอง
กองหน้า – อเนลก้า, โกวู ,ริเบรี

อุรุกวัย
แชมป์โลกสองสมัยเป็นทีมสุดท้ายของโลกที่เข้ารอบ และเป็นทีมแรกของโซนอเมริกาใต้ที่เตะเปิดตัวกันก่อนเลย ทีมชุดนี้ไม่มีปัญหาเรื่องผู้เล่นนอกจากฟอร์มในรอบคัดเลือกซึ่งต้องเข้ามาด้วยการเตะเพลย์ออฟ ที่น่าแปลกคือ อุรุกวัย อุ่นเครื่องแบบเป็นทางการระดับนานาชาติแค่ 1 นัดเท่านั้น

นั่นคือเกมที่พวกเขาถล่มอิสราเอล 4-1 ที่สนามร้อยปี เซนเทนาริโอ สเตเดี้ยม กรุงมอนเตวิเดโอ ก่อนเดินทางเข้ามาแอฟริกาใต้
ออสการ์ ตาบาเรซ โค้ชที่รู้จักทีมนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง จะใช้แกนนำจากรอบคัดเลือกทั้งหมด โดยที่เน้นเป็นพิเศษคือผู้รักษาประตูวัยรุ่นที่ชื่อ มุสเซรา นั้นยึดมือหนึ่งเมื่อปีก่อน ประสบการณ์น้อยมาก แต่ ตาบาเรซ มั่นใจกับนายประตูคนนี้

ทีมชุดนี้เล่นระบบ 3-5-2 แนวรับนั้นถูกเลือกติดทีมชาติเล่นด้วยกันมาตลอด 4 ปี ไม่ว่าจะเป็น ลูกาโน จากเฟเนร์บาห์เช, โกดินของ บียาร์เรอัล และสกอตติ ที่เล่นในลีกชิลี

นักเตะดังของพวกเขานอกจาก ดีเอโก ฟอร์ลัน แล้ว ยังมี หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงคู่ขาจากอาแจกซ์ ที่กำลังเนื้อหอมมาก ส่วนข่าวล่าสุดที่ ฟอร์ลัน เจ็บนั้นไม่น่ามีปัญหาลงสนามได้

11 คนแรกที่คาด (ระบบ 3-5-2)
ผู้รักษาประตู - มุสเซรา
กองหลัง – โกดิน, ลูกาโน, สกอตติ
กองกลาง - แมกซ์ เปเรร์รา, การ์กาโน, อัลบาโร เปเรรา, เปเรซ,
กองหน้า – ฟอร์ลัน, ซัวเรซ

ใครพลาดก่อนโดน...
เกมคู่นี้สูสี ทั้งตัวผู้เล่นและทีมเวิร์ค แม้อุรุกวัยดูดรอปลงไปช่วงหลัง แต่ทีมจากอเมริกาใต้ทีมนี้เล่นบอลกับพื้นได้ดี ขณะที่ฝรั่งเศสนั้นมีปัญหาเรื่องความมั่นใจในตัวเอง การเข้าทำมีปัญหาพอสมควร ส่วนอุรุกวัยมีดีที่กองหน้าคู่นั้นคล่องและเร็ว ไม่ว่าจะฟอร์ลัน และ ซัวเรซ เพียงแต่ว่าจุดแข็งของฝรั่งเศสเที่ยวนี้คือเกมรับ

แน่นและรัดกุมมาก อาจบุกไม่มีสีสันแต่หลังยากที่จะโดนเจาะเหมือนกัน เกมของพวกเขาจึงออกเสมอบ่อย

น่าจะออกอาการเกร็งทั้งคู่จนเล่นไม่ถนัด ถ้าจะมีตัดสินผลแพ้ชนะกันได้คงมาจากความผิดพลาดส่วนตัวของกองหลัง ประกบลูกเซตพีซ ไม่ดีบ้าง อะไรบ้าง พอโดน 1-0 ก็อาจจบเกมได้เลย ถ้าให้เลือก เอนเอียงไปทางฝรั่งเศสว่าดูดีกว่า อุรุกวัยเล็กน้อย